ประกาศเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Google Chrome
แก้ไขล่าสุด: 24 กันยายน 2018
ดูวิธีควบคุมข้อมูลที่เรารวบรวม จัดเก็บ และแชร์เมื่อคุณใช้เบราว์เซอร์ Google Chrome ในคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์เคลื่อนที่, ChromeOS และเมื่อคุณเปิดใช้ Safe Browsing ใน Chrome แม้ว่านโยบายนี้จะอธิบายถึงฟีเจอร์ที่มีไว้สำหรับ Chrome เท่านั้น แต่จะมีการใช้และปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลที่ Google ได้รับหรือจัดเก็บไว้ในบัญชี Google โดยสอดคล้องกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Google
หากคุณเปิดใช้แอป Google Play ใน Chromebook การใช้งานและการปกป้องข้อมูลที่ Google Play หรือระบบปฏิบัติการ Android เก็บรวบรวมไว้จะอยู่ภายใต้ข้อกำหนดในการให้บริการของ Play และนโยบายส่วนบุคคลของ Google โปรดดูรายละเอียดสำหรับ Chrome ในหนังสือแจ้งนี้หากเกี่ยวข้อง
รายละเอียดของประกาศเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัว
ในประกาศเกี่ยวกับนโยบายส่วนบุคคล เราจะใช้คำว่า "Chrome" แทนผลิตภัณฑ์ทั้งหมดในตระกูล Chrome ที่แสดงไว้ทางด้านบน ในกรณีที่ผลิตภัณฑ์ต่างๆ มีนโยบายที่แตกต่างกัน เราจะระบุข้อแตกต่างนั้นให้ทราบ
เวอร์ชัน "เบต้า" "กำลังพัฒนา" หรือ "Canary" ของ Chrome จะช่วยให้คุณทดสอบฟีเจอร์ใหม่ที่กำลังสร้างขึ้นใน Chrome ได้ ประกาศเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้จะใช้กับ Chrome ทุกเวอร์ชัน แต่อาจยังไม่มีข้อมูลล่าสุดสำหรับฟีเจอร์ที่ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา
หากต้องการดูคำแนะนำทีละขั้นตอนในการจัดการค่ากำหนดความเป็นส่วนตัว โปรดอ่านภาพรวมการควบคุมความเป็นส่วนตัวของ Chrome
สารบัญ
- โหมดต่างๆ ของเบราว์เซอร์
- การจัดการผู้ใช้ใน Chrome
- นโยบาย Safe Browsing
- นโยบายในการใช้แอป ส่วนขยาย ธีม บริการ และส่วนเสริมอื่นๆ
- ข้อมูลส่วนบุคคลในข้อมูลบันทึกของเซิร์ฟเวอร์
- ข้อมูลเพิ่มเติม
โหมดต่างๆ ของเบราว์เซอร์
คุณไม่จำเป็นต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อใช้งาน Chrome แต่ Chrome มีโหมดต่างๆ ที่คุณใช้ในการเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงประสบการณ์การท่องเว็บได้ หลักปฏิบัติเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวจะแตกต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับโหมดที่คุณใช้อยู่
โหมดพื้นฐานของเบราว์เซอร์
โหมดพื้นฐานของเบราว์เซอร์จะจัดเก็บข้อมูลไว้ในระบบ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลต่อไปนี้
-
ข้อมูลประวัติการท่องเว็บ เช่น Chrome จะจัดเก็บ URL ของหน้าเว็บที่คุณเข้าชม แคชของข้อความ รูปภาพ และทรัพยากรอื่นๆ จากหน้าเว็บเหล่านั้น และในกรณีที่ฟีเจอร์การคาดคะเนการทำงานของเครือข่ายเปิดอยู่ จะมีการจัดเก็บรายการที่อยู่ IP บางส่วนที่ลิงก์จากหน้าเว็บเหล่านั้นด้วย
-
ข้อมูลส่วนบุคคลและรหัสผ่าน เพื่อช่วยคุณในการกรอกฟอร์มหรือลงชื่อเข้าใช้เว็บไซต์ที่คุณเข้าชม
-
รายการสิทธิ์ที่คุณให้แก่เว็บไซต์
-
ภาพหน้าจอที่เป็นภาพขนาดย่อของหน้าเว็บที่คุณเข้าชมบ่อยที่สุด
-
คุกกี้หรือข้อมูลจากเว็บไซต์ที่คุณเข้าชม
-
ข้อมูลที่บันทึกไว้โดยส่วนเสริม
-
บันทึกรายการที่คุณดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ต่างๆ
คุณจัดการข้อมูลนี้ได้หลายวิธี เช่น
-
คุณสามารถล้างคุกกี้และข้อมูลเว็บไซต์ได้โดยไปที่ช่องโต้ตอบคุกกี้และข้อมูลเว็บไซต์ที่ chrome://settings/clearBrowserData
-
คุณสามารถหยุด Chrome ไม่ให้ยอมรับคุกกี้จาก Google หรือเว็บไซต์อื่นๆ ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
-
คุณดูรหัสผ่านที่จัดเก็บไว้ได้ในการตั้งค่า Chrome ดูข้อมูลเพิ่มเติม
-
คุณดูและจัดการข้อมูลการป้อนอัตโนมัติที่จัดเก็บไว้ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
Chrome จะไม่ส่งข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บไว้ไปยัง Google เว้นแต่ว่าคุณเลือกที่จะจัดเก็บข้อมูลนั้นในบัญชี Google ด้วยการเปิดการซิงค์ของ Chrome ดูข้อมูลเพิ่มเติม
วิธีการที่ Chrome จัดการกับข้อมูลของคุณ
ข้อมูลสำหรับผู้ให้บริการเว็บไซต์ เว็บไซต์ที่คุณเยี่ยมชมโดยใช้ Chrome จะได้รับข้อมูลบันทึกมาตรฐาน ซึ่งรวมถึงที่อยู่ IP ของระบบของคุณและข้อมูลจากคุกกี้หรือเทคโนโลยีที่คล้ายกันโดยอัตโนมัติ อันที่จริงแล้วโดยทั่วไปการที่คุณใช้ Chrome เข้าถึงบริการต่างๆ ของ Google เช่น Gmail จะไม่ทำให้ Google ได้รับข้อมูลอื่นๆ ที่ระบุตัวตนของคุณได้ ทั้งนี้หาก Chrome ตรวจพบสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณกำลังถูกใครบางคนโจมตีอยู่ในเครือข่าย ("การโจมตีโดยบุคคลที่อยู่ระหว่างกลาง") บนเว็บไซต์ของ Google และเว็บไซต์อื่นๆ ที่เลือกใช้บริการ Chrome อาจส่งข้อมูลเกี่ยวกับการเชื่อมต่อ Google หรือเว็บไซต์ที่คุณเข้าชมเพื่อช่วยระบุขอบเขตของการโจมตีและวิธีการโจมตีเหล่านั้น Google จะให้รายงานเกี่ยวกับการโจมตีที่เกิดขึ้นกับเว็บไซต์แก่เจ้าของเว็บไซต์ที่เลือกเข้าร่วม
การแสดงผลล่วงหน้า เพื่อให้คุณโหลดหน้าเว็บได้เร็วขึ้น Chrome มีการตั้งค่าที่ค้นหาที่อยู่ IP ของลิงก์ในหน้าเว็บแล้วเปิดการเชื่อมต่อเครือข่ายได้ นอกจากนี้เว็บไซต์และแอป Android ยังขอให้เบราว์เซอร์โหลดหน้าเว็บที่คุณอาจเข้าชมในลำดับต่อไปล่วงหน้าได้ คำขอให้โหลดล่วงหน้าจากแอป Android ควบคุมโดยการตั้งค่าเดียวกันกับการคาดคะเนที่มาจาก Chrome แต่จะมีการเรียกใช้คำสั่งโหลดล่วงหน้าจากเว็บไซต์เสมอ ไม่ว่าจะมีการเปิดใช้ฟีเจอร์การคาดคะเนเครือข่ายของ Chrome หรือไม่ก็ตาม หากมีการส่งคำขอให้แสดงผลล่วงหน้าไม่ว่าคำขอนั้นจะมาจาก Chrome, เว็บไซต์ หรือแอป ระบบจะอนุญาตให้เว็บไซต์ที่โหลดล่วงหน้าตั้งค่าและอ่านคุกกี้ของตัวเองราวกับว่าคุณได้เข้าชมเว็บไซต์นั้นแล้ว (แม้ว่าท้ายที่สุดแล้ว คุณจะไม่ไปยังหน้าที่แสดงผลล่วงหน้าดังกล่าวก็ตาม) ดูข้อมูลเพิ่มเติม
ตำแหน่ง หากต้องการได้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องตามตำแหน่งที่คุณอยู่มากขึ้น Chrome มีตัวเลือกให้คุณแชร์ตำแหน่งกับเว็บไซต์ ทั้งนี้ Chrome จะไม่อนุญาตให้เว็บไซต์เข้าถึงตำแหน่งของคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต อย่างไรก็ตาม ในอุปกรณ์เคลื่อนที่ Chrome จะแชร์ตำแหน่งกับเครื่องมือค้นหาเริ่มต้นโดยอัตโนมัติ หากแอป Chrome มีสิทธิ์เข้าถึงตำแหน่งดังกล่าวและคุณไม่ได้บล็อกตำแหน่งทางภูมิศาสตร์เพื่อไม่ให้เว็บไซต์ที่เชื่อมโยงอยู่เข้าถึงได้ Chrome ใช้บริการตำแหน่งของ Google ในการประเมินตำแหน่งของคุณ สิ่งที่ Chrome ส่งไปยังบริการตำแหน่งของ Google อาจรวมถึงข้อมูลต่อไปนี้
- เราเตอร์ Wi-Fi ที่อยู่ใกล้คุณมากที่สุด
- รหัสของเสาสัญญาณโทรศัพท์ที่อยู่ใกล้คุณมากที่สุด
- ความแรงของ Wi-Fi หรือสัญญาณมือถือ
- ที่อยู่ IP ที่ถูกกำหนดให้กับอุปกรณ์ของคุณในปัจจุบัน
Google ควบคุมเว็บไซต์หรือหลักปฏิบัติเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลที่สามไม่ได้ โปรดใช้ความระมัดระวังในการแชร์ตำแหน่งของคุณกับเว็บไซต์ใดๆ
ข้อมูลอัปเดต Chrome จะส่งข้อมูลไปยัง Google เป็นระยะๆ เพื่อตรวจสอบข้อมูลอัปเดต สถานะการเชื่อมต่อ เวลาปัจจุบัน และประเมินจำนวนผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่
ฟีเจอร์การค้นหา หากคุณใช้ Google เป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น Chrome จะติดต่อ Google เมื่อคุณเริ่มค้นหาหรือเมื่อเปลี่ยนเครือข่าย เพื่อให้คุณได้รับที่อยู่เว็บที่ดีที่สุดในท้องถิ่นสำหรับส่งคำค้นหา หากคุณลงชื่อเข้าใช้เว็บไซต์ของ Google และใช้ Google เป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น การค้นหาที่คุณทำโดยใช้แถบที่อยู่ใน Chrome จะจัดเก็บไว้ในบัญชี Google ของคุณ
บริการคาดคะเนการค้นหา เพื่อช่วยคุณค้นหาข้อมูลได้เร็วขึ้น Chrome ใช้บริการคาดคะเนจากเครื่องมือค้นหาเริ่มต้นที่คุณใช้ เพื่อเสนอการเติมคำที่น่าจะเป็นไปได้สำหรับข้อความที่คุณกำลังพิมพ์ เมื่อคุณค้นหาโดยใช้แถบที่อยู่เว็บใน Chrome อักขระที่คุณพิมพ์ (แม้ว่าจะยังไม่ได้กด "Enter") จะส่งไปยังเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น หาก Google เป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น การคาดคะเนจะอิงตามประวัติการค้นหาของคุณเอง หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณกำลังพิมพ์ และสิ่งที่คนอื่นๆ กำลังค้นหา ดูข้อมูลเพิ่มเติม การคาดคะเนยังอาจอิงตามประวัติการท่องเว็บของคุณอีกด้วย ดูข้อมูลเพิ่มเติม
ความช่วยเหลือในการนำทาง เมื่อเชื่อมต่อหน้าเว็บไม่ได้ คุณจะได้รับคำแนะนำให้ไปยังหน้าอื่นที่คล้ายกับหน้าที่ต้องการเปิด ในการให้คำแนะนำ Chrome จะส่ง URL ของหน้าเว็บที่คุณพยายามเข้าชมให้กับ Google
การจัดการการป้อนอัตโนมัติและรหัสผ่าน Chrome จะส่งข้อมูลที่มีการลบข้อมูลระบุตัวบุคคลอย่างจำกัดเกี่ยวกับแบบฟอร์มบนเว็บที่คุณพบให้กับ Google ซึ่งรวมถึง URL ที่ผ่านการแฮชของหน้าเว็บและรายละเอียดของโครงสร้างแบบฟอร์มเพื่อให้เราปรับปรุงบริการจัดการการป้อนอัตโนมัติและรหัสผ่านของเราให้ดียิ่งขึ้น
การชำระเงิน หากคุณเปิดการซิงค์ของ Chrome และเก็บข้อมูลบัตรเครดิตไว้ในบัญชี Google Payments เบราว์เซอร์ Chrome ก็จะเสนอตัวเลือกให้กรอกข้อมูลบัตรดังกล่าวลงในฟอร์มบนเว็บ นอกจากนี้ หากคุณป้อนข้อมูลบัตรเครดิตใหม่ลงในฟอร์มบนเว็บ Chrome จะเสนอให้บันทึกบัตรเครดิตและข้อมูลสำหรับการเรียกเก็บเงินที่เกี่ยวข้องลงในบัญชี Google Payments หากคุณใช้บัตรที่มีอยู่ใน Google Payments หรือเลือกที่จะบันทึกบัตรเครดิตในบัญชี Google Payments สำหรับใช้ในอนาคต Chrome จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ของคุณและแชร์กับ Google Payments เพื่อปกป้องคุณจากการฉ้อโกง สำหรับใน Android นั้น Chrome จะให้คุณชำระเงินโดยใช้ Android Pay ได้ด้วยหากผู้ขายรองรับ
ภาษา Chrome จะเก็บบันทึกข้อมูลภาษาซึ่งเป็นที่นิยมสูงสุดของเว็บไซต์ต่างๆ ที่คุณเข้าชมเพื่อปรับแต่งประสบการณ์การท่องเว็บตามภาษาที่คุณต้องการอ่าน ค่ากำหนดภาษานี้จะส่งไปยัง Google เพื่อปรับแต่งประสบการณ์ของคุณใน Chrome หากคุณเปิดการซิงค์ของ Chrome โปรไฟล์ภาษานี้จะเชื่อมโยงกับบัญชี Google ของคุณ และหากคุณรวมประวัติการเข้าชมใน Chrome ไว้ในกิจกรรมบนเว็บและแอปของ Google ก็อาจมีการใช้โปรไฟล์ภาษาดังกล่าวเพื่อปรับเปลี่ยนประสบการณ์ในผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Google ให้เหมาะกับคุณ ดูส่วนควบคุมกิจกรรม
เว็บแอปใน Android ในอุปกรณ์ Android หากคุณเลือก "เพิ่มไปยังหน้าจอหลัก" สำหรับเว็บไซต์ที่เพิ่มประสิทธิภาพให้ทำงานได้รวดเร็วและเชื่อถือได้ในอุปกรณ์เคลื่อนที่ Chrome จะใช้เซิร์ฟเวอร์ของ Google ในการสร้างแพ็กเกจ Android แบบดั้งเดิมสำหรับเว็บไซต์นั้นในอุปกรณ์ของคุณ แพ็กเกจ Android ช่วยให้คุณโต้ตอบกับเว็บแอปในลักษณะเดียวกับที่คุณทำในแอป Android ได้ เช่น เว็บแอปจะปรากฏในรายการแอปที่ติดตั้ง ดูข้อมูลเพิ่มเติม
สถิติการใช้งานและรายงานข้อขัดข้อง โดยค่าเริ่มต้น ระบบจะส่งสถิติการใช้งานและรายงานข้อขัดข้องไปยัง Google เพื่อช่วยเราปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น สถิติการใช้งานจะมีข้อมูล เช่น ค่ากำหนด การคลิกปุ่ม และการใช้หน่วยความจำ โดยทั่วไปแล้ว สถิติการใช้งานไม่มี URL ของหน้าเว็บหรือข้อมูลส่วนบุคคล แต่ถ้าคุณลงชื่อเข้าใช้ Chrome และซิงค์ประวัติการท่องเว็บในบัญชี Google ของคุณโดยไม่มีรหัสผ่านการซิงค์ สถิติการใช้งานของ Chrome จะมีข้อมูลเกี่ยวกับหน้าเว็บที่คุณเข้าชมและการใช้งานหน้าเว็บนั้นของคุณด้วย เช่น เราอาจเก็บสถิติเพื่อระบุหน้าเว็บที่โหลดช้า เราใช้ข้อมูลนี้เพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการของเรา และเพื่อให้นักพัฒนาเว็บมีข้อมูลเชิงลึกในการปรับปรุงหน้าเว็บ ส่วนรายงานข้อขัดข้องนั้นจะประกอบด้วยข้อมูลระบบในเวลาที่เกิดข้อขัดข้อง และอาจประกอบด้วย URL ของหน้าเว็บหรือข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งขึ้นอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะที่มีการเริ่มการรายงานข้อขัดข้อง เราอาจแชร์ข้อมูลรวมที่ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุตัวบุคคลนั้นได้สู่สาธารณะและกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ เช่น ผู้เผยแพร่โฆษณา ผู้ลงโฆษณา หรือนักพัฒนาเว็บ คุณเลือกได้ทุกเมื่อว่าจะส่งหรือไม่ส่งสถิติการใช้งานและรายงานข้อขัดข้องไปยัง Google ดูข้อมูลเพิ่มเติม หากใช้แอป Google Play ใน Chromebook ได้และมีการเปิดใช้สถิติการใช้งานของ Chrome ระบบจะส่งข้อมูลการวินิจฉัยและการใช้งานของ Android ไปยัง Google ด้วย
ใบอนุญาตสื่อ เว็บไซต์บางแห่งเข้ารหัสสื่อเพื่อป้องกันการเข้าถึงและการคัดลอกที่ไม่ได้รับอนุญาต สำหรับเว็บไซต์ HTML5 การแลกเปลี่ยนคีย์นี้ดำเนินการโดยใช้ Encrypted Media Extensions API ในขั้นตอนการอนุญาตให้เข้าถึงสื่อนี้ ระบบอาจเก็บตัวระบุเซสชันและใบอนุญาตไว้ในเครื่อง ผู้ใช้สามารถล้างตัวระบุเหล่านี้ใน Chrome ด้วยล้างข้อมูลการท่องเว็บโดยเปิดใช้ "ใบอนุญาตสื่อ" สำหรับเว็บไซต์ที่ใช้ Adobe Flash Access เบราว์เซอร์ Chrome สำหรับ Windows หรือ ChromeOS จะมีตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันให้กับพาร์ทเนอร์เนื้อหาและเว็บไซต์ ซึ่งจะได้รับการจัดเก็บไว้ในระบบของคุณ คุณปฏิเสธการเข้าถึงนี้ได้ในการตั้งค่า ในส่วนการตั้งค่าเนื้อหา เนื้อหาที่มีการคุ้มครอง และรีเซ็ตรหัสโดยใช้ล้างข้อมูลการท่องเว็บโดยเปิดใช้ "ใบอนุญาตสื่อ" หากคุณเข้าถึงเนื้อหา HD ใน ChromeOS ผู้ให้บริการเนื้อหาอาจขอใบรับรองจาก Chrome เพื่อยืนยันคุณสมบัติของอุปกรณ์ ในการยืนยันอุปกรณ์ Chromebook จะแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับแอตทริบิวต์ฮาร์ดแวร์กับเว็บไซต์ และจะใช้การเข้าถึงที่ยืนยันแล้วเพื่อรับรองว่าคีย์การเข้ารหัสได้รับการป้องกันโดยฮาร์ดแวร์ของ Chrome และ Chrome จะเตือนให้คุณอนุญาตหรือปฏิเสธการตรวจยืนยันนี้ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
บริการอื่นๆ ของ Google ประกาศนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริการต่างๆ ของ Google ที่ได้รับการเปิดใช้ใน Chrome โดยค่าเริ่มต้น นอกจากนี้ Chrome ยังอาจเสนอบริการบนเว็บอื่นๆ ของ Google อีกด้วย เช่น หากคุณพบหน้าเว็บในภาษาอื่น Chrome จะเสนอการส่งข้อความให้ Google เพื่อทำการแปลภาษา คุณจะได้รับแจ้งเกี่ยวกับตัวเลือกต่างๆ ในการควบคุมบริการเหล่านี้เมื่อใช้งานเป็นครั้งแรก ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ในรายงานเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของ Chrome
ตัวระบุใน Chrome
Chrome มีตัวระบุจำนวนหนึ่งที่จำเป็นสำหรับการใช้งานคุณลักษณะต่างๆ เช่น หากคุณใช้การรับส่งข้อความพุช จะมีการสร้างตัวระบุขึ้นเพื่อส่งการแจ้งข้อมูลถึงคุณ เราจะใช้ตัวระบุที่ไม่สามารถระบุตัวตนและนำตัวระบุออกเมื่อไม่จำเป็นต้องใช้งานอีกต่อไป ในกรณีที่สามารถทำได้ นอกจากนี้ ตัวระบุต่อไปนี้ยังช่วยเราในการพัฒนา แจกจ่าย และโปรโมต Chrome โดยไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับคุณลักษณะของ Chrome โดยตรง
-
การติดตามการติดตั้ง เบราว์เซอร์ Chrome แต่ละสำเนาในเวอร์ชันเดสก์ท็อปของ Windows จะมีหมายเลขการติดตั้งชั่วคราวที่สร้างขึ้นแบบสุ่มซึ่งจะถูกส่งมายัง Google เมื่อคุณติดตั้งและใช้ Chrome เป็นครั้งแรก ตัวระบุชั่วคราวนี้จะช่วยให้เราประเมินจำนวนเบราว์เซอร์ที่ได้รับการติดตั้ง และระบบจะลบออกเมื่อมีการอัปเดต Chrome เป็นครั้งแรก Chrome เวอร์ชันอุปกรณ์เคลื่อนที่จะใช้ตัวระบุอุปกรณ์รูปแบบอื่นในแบบต่อเนื่องเพื่อติดตามจำนวนการติดตั้ง Chrome
-
การติดตามโปรโมชัน เพื่อช่วยให้เราติดตามความสำเร็จของแคมเปญโปรโมชันได้ Chrome จะสร้างโทเค็นที่ไม่ซ้ำกันซึ่งจะส่งมายัง Google เมื่อคุณเปิดและใช้งานเบราว์เซอร์เป็นครั้งแรก นอกจากนี้ ในกรณีที่คุณได้รับหรือเปิดใช้งานสำเนาของเบราว์เซอร์ Chrome เวอร์ชันเดสก์ท็อปอีกครั้งในฐานะส่วนหนึ่งของแคมเปญโปรโมชันและมี Google เป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น การค้นหาจากแถบอเนกประสงค์จะมีแท็กโปรโมชันที่ซ้ำกันได้อยู่ด้วย นอกจากนี้ เบราว์เซอร์ Chrome เวอร์ชันบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ทุกเวอร์ชันยังรวมแท็กโปรโมชันที่ซ้ำกันได้ไว้ในการค้นหาจากแถบอเนกประสงค์ ChromeOS ยังอาจส่งแท็กโปรโมชันที่ซ้ำกันได้มายัง Google เป็นระยะๆ (รวมถึงระหว่างการตั้งค่าครั้งแรก) และเมื่อทำการค้นหาด้วย Google ดูข้อมูลเพิ่มเติม
-
การทดลองใช้งานจริง บางครั้งเราจะดำเนินการทดสอบแบบจำกัดกับฟีเจอร์ใหม่ๆ โดย Chrome จะรวมตัวเลขค่าข้อมูลที่ได้รับเลือกแบบสุ่มในการเรียกใช้ครั้งแรกเพื่อกำหนดเบราว์เซอร์ให้กับกลุ่มทดสอบ การทดสอบยังอาจมีข้อจำกัดตามประเทศ (ระบุโดยที่อยู่ IP), ระบบปฏิบัติการ, เวอร์ชัน Chrome และพารามิเตอร์อื่นๆ รายการการทดลองใช้งานจริงที่ดำเนินการอยู่ในการติดตั้ง Chrome จะรวมไว้ในคำขอทั้งหมดที่ส่งให้กับ Google ดูข้อมูลเพิ่มเติม
โหมดลงชื่อเข้าใช้และซิงค์ Chrome
เมื่อคุณลงชื่อเข้าใช้เบราว์เซอร์ Chrome หรือ Chromebook และซิงค์กับบัญชี Google ข้อมูลการท่องเว็บส่วนตัวของคุณจะบันทึกไว้ในเซิร์ฟเวอร์ของ Google และซิงค์กับบัญชีของคุณ ข้อมูลประเภทนี้ ได้แก่
- ประวัติการท่องเว็บ
- บุ๊กมาร์ก
- แท็บ
- ข้อมูลรหัสผ่านและการป้อนข้อความอัตโนมัติ
- การตั้งค่าอื่นๆ ของเบราว์เซอร์ เช่น ส่วนขยายที่ติดตั้ง
ระบบจะโหลดการตั้งค่าเหล่านี้ให้คุณทุกครั้งที่ลงชื่อเข้าใช้และซิงค์กับ Chrome ในคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่น ใน Chrome เวอร์ชันเดสก์ท็อป การลงชื่อเข้าใช้หรือออกจากระบบบริการเว็บของ Google (เช่น google.com) จะเป็นการลงชื่อเข้าใช้หรือออกจากระบบ Chrome ด้วย ระบบจะเปิดใช้การซิงค์เมื่อคุณเลือกเท่านั้น หากต้องการกำหนดข้อมูลที่จะซิงค์ ให้ใช้เมนู "การตั้งค่า" ดูข้อมูลเพิ่มเติม คุณดูปริมาณข้อมูล Chrome ที่จัดเก็บไว้ให้บัญชี Google ของคุณและจัดการข้อมูลดังกล่าวได้ในแดชบอร์ดการซิงค์ของ Chrome ในแดชบอร์ดนี้ คุณจะปิดใช้การซิงค์ทั้งหมดและลบข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องออกจากเซิร์ฟเวอร์ของ Google ได้ด้วย ยกเว้นบัญชี Google ที่สร้างผ่าน Family Link ดูข้อมูลเพิ่มเติม บุตรหลานที่มีบัญชี Google ซึ่งสร้างใน Family Link ต้องลงชื่อเข้าใช้และจะปิดใช้การซิงค์ของ Chrome ไม่ได้เพราะจำเป็นสำหรับฟีเจอร์การจัดการของผู้ปกครอง เช่น การจำกัดเว็บไซต์ แต่จะยังลบข้อมูลของตนและปิดใช้การซิงค์ข้อมูลเกือบทุกประเภทได้อยู่ ดูข้อมูลเพิ่มเติม ประกาศเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของบัญชี Google ที่สร้างใน Family Link มีผลกับข้อมูลการซิงค์ของ Chrome ที่จัดเก็บไว้ในบัญชีเหล่านั้น
วิธีการที่ Chrome จัดการข้อมูลที่คุณซิงค์
เมื่อคุณซิงค์ Chrome กับบัญชี Google เราจะใช้ข้อมูลการท่องเว็บเพื่อปรับปรุงและปรับเปลี่ยนประสบการณ์ภายใน Chrome ในแบบของคุณ คุณปรับเปลี่ยนประสบการณ์ในผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Google ในแบบของคุณได้โดยอนุญาตให้เรารวมประวัติการเข้าชม Chrome ไว้ในกิจกรรมบนเว็บและแอป ดูข้อมูลเพิ่มเติม
คุณเปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้ในหน้าประวัติบัญชีหรือจัดการข้อมูลส่วนตัวทุกเมื่อที่ต้องการ หากคุณไม่ได้ใช้ข้อมูลของ Chrome ในการปรับเปลี่ยนประสบการณ์การใช้งาน Google ที่ไม่ได้อยู่ใน Chrome เราจะใช้ข้อมูลของ Chrome หลังจากที่ลบข้อมูลระบุตัวบุคคลและนำข้อมูลไปรวมกับผู้ใช้อื่นๆ แล้วเท่านั้น ทั้งนี้ Google นำข้อมูลนี้ไปใช้เพื่อพัฒนาฟีเจอร์ ผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ๆ และเพื่อปรับปรุงคุณภาพโดยรวมของผลิตภัณฑ์และบริการที่มีอยู่ หากคุณต้องการใช้ระบบคลาวด์ของ Google เพื่อจัดเก็บและซิงค์ข้อมูล Chrome โดยไม่ต้องการให้ Google เข้าถึงข้อมูล คุณจะเข้ารหัสข้อมูลที่ซิงค์ไว้ทั้งหมดได้ด้วยรหัสผ่านการซิงค์ของตัวเอง ดูข้อมูลเพิ่มเติม
โหมดไม่ระบุตัวตนและโหมดผู้มาเยือน
คุณจำกัดข้อมูลที่ Chrome จัดเก็บไว้ในระบบได้โดยใช้โหมดไม่ระบุตัวตนหรือโหมดผู้มาเยือน ในโหมดเหล่านี้ Chrome จะไม่จัดเก็บข้อมูลบางอย่าง เช่น
- ข้อมูลประวัติการท่องเว็บเบื้องต้น เช่น URL, ข้อความของหน้าที่แคชไว้ หรือที่อยู่ IP ของหน้าที่ลิงก์จากเว็บไซต์ที่คุณเข้าชม
- ภาพรวมของหน้าเว็บที่คุณเข้าชม
- ข้อมูลการดาวน์โหลดแม้ว่าไฟล์ที่คุณดาวน์โหลดจะยังถูกจัดเก็บไว้ที่อื่นในคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์
วิธีการที่ Chrome จัดการกับข้อมูลในโหมดไม่ระบุตัวตนหรือโหมดผู้มาเยือน
คุกกี้ Chrome จะไม่แชร์คุกกี้ที่มีอยู่กับเว็บไซต์ที่คุณเข้าชมในโหมดไม่ระบุตัวตนหรือโหมดผู้มาเยือน เว็บไซต์อาจเก็บรวบรวมคุกกี้ใหม่ไว้ในระบบของคุณขณะที่คุณอยู่ในโหมดดังกล่าว ซึ่งจะมีการจัดเก็บและส่งข้อมูลจนกว่าคุณจะปิดหน้าต่างโหมดไม่ระบุตัวตนหรือโหมดผู้มาเยือนจนหมด
การเปลี่ยนการกำหนดค่าเบราว์เซอร์ เมื่อคุณเปลี่ยนการกำหนดค่าเบราว์เซอร์ เช่น การบุ๊กมาร์กหน้าเว็บหรือเปลี่ยนการตั้งค่า ข้อมูลนี้จะได้รับการบันทึกไว้ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะไม่ได้รับผลกระทบจากโหมดไม่ระบุตัวตนหรือโหมดผู้มาเยือน
สิทธิ์ ระบบจะไม่บันทึกสิทธิ์ที่คุณให้ในโหมดไม่ระบุตัวตนลงในโปรไฟล์ที่มีอยู่
ข้อมูลโปรไฟล์ ในโหมดไม่ระบุตัวตน คุณยังคงต้องได้รับสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลจากโปรไฟล์ที่มีอยู่ เช่น คำแนะนำตามประวัติการท่องเว็บและรหัสผ่านที่บันทึกไว้ขณะท่องเว็บ ในโหมดผู้มาเยือน คุณจะท่องเว็บได้โดยไม่เห็นข้อมูลจากโปรไฟล์ใดๆ ที่มีอยู่
การจัดการผู้ใช้ใน Chrome
การจัดการผู้ใช้สำหรับการใช้งาน Chrome แบบส่วนบุคคล
คุณตั้งค่า Chrome ในเวอร์ชันที่มีการปรับเปลี่ยนในแบบของคุณสำหรับผู้ใช้ที่แชร์อุปกรณ์หรือคอมพิวเตอร์กันได้ โปรดทราบว่าผู้ใช้ที่เข้าถึงอุปกรณ์ของคุณได้จะดูข้อมูลทั้งหมดในทุกโปรไฟล์ได้ หากต้องการป้องกันไม่ให้ผู้อื่นเห็นข้อมูลของคุณได้อย่างแท้จริง ให้ใช้บัญชีผู้ใช้ในตัวในระบบปฏิบัติการของคุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
การจัดการผู้ใช้ใน Chrome สำหรับองค์กร
เบราว์เซอร์ Chrome หรือ Chromebook บางเครื่องได้รับการจัดการโดยโรงเรียนหรือบริษัท ในกรณีนี้ ผู้ดูแลระบบจะบังคับใช้นโยบายในเบราว์เซอร์หรือ Chromebook ได้ Chrome จะติดต่อ Google เพื่อตรวจสอบนโยบายเหล่านี้เมื่อผู้ใช้เริ่มท่องเว็บครั้งแรก (ยกเว้นในโหมดผู้มาเยือน) และจะตรวจสอบการปรับปรุงนโยบายเป็นระยะๆ
ผู้ดูแลระบบตั้งค่านโยบายสำหรับการรายงานสถานะและกิจกรรมให้กับ Chrome ได้ ซึ่งรวมถึงข้อมูลตำแหน่งสำหรับอุปกรณ์ ChromeOS และยังเข้าถึง ติดตาม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลที่เข้าถึงได้จากอุปกรณ์ที่มีการจัดการด้วย
แนวทางการใช้งาน Google Safe Browsing
Google Chrome และเบราว์เซอร์ของบุคคลที่สามบางส่วน เช่น Mozilla Firefox และ Safari ของ Apple บางเวอร์ชันจะมีฟีเจอร์ Google Safe Browsing อยู่ เมื่อใช้ Google Safe Browsing จะมีการรับส่งข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่น่าสงสัยระหว่างเบราว์เซอร์ที่คุณใช้กับเซิร์ฟเวอร์ของ Google
วิธีการทำงานของ Google Safe Browsing
เบราว์เซอร์ของคุณจะติดต่อเซิร์ฟเวอร์ของ Google เป็นระยะเพื่อดาวน์โหลดรายการ “Safe Browsing” ล่าสุดที่มีข้อมูลเว็บไซต์มัลแวร์และฟิชชิงที่รู้จัก สำเนาล่าสุดของรายการจะถูกจัดเก็บไว้ภายในระบบของคุณ Google ไม่ได้รวบรวมข้อมูลบัญชีใดๆ หรือข้อมูลที่ระบุตัวตนอื่นๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของการติดต่อนี้ แต่จะได้รับข้อมูลบันทึกมาตรฐาน ซึ่งรวมถึงที่อยู่ IP และคุกกี้
จะมีการตรวจสอบแต่ละเว็บไซต์ที่คุณเข้าชมกับรายการ Google Safe Browsing ในระบบของคุณ หากมีเว็บไซต์ที่ตรงกับรายการ เบราว์เซอร์ของคุณจะส่งสำเนาบางส่วนของ URL ของเว็บไซต์ซึ่งผ่านการแฮชมายัง Google เพื่อให้ Google ส่งข้อมูลเพิ่มเติมไปยังเบราว์เซอร์ของคุณได้ Google จะระบุ URL ที่แท้จริงจากข้อมูลนี้ไม่ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
ฟีเจอร์ Google Safe Browsing ต่อไปนี้มีเฉพาะใน Chrome
-
Chrome บางเวอร์ชันจะมีเทคโนโลยี Google Safe Browsing ที่ระบุเว็บไซต์และประเภทไฟล์ที่อาจเป็นอันตรายซึ่ง Google ยังไม่รู้จักได้ นอกจากนี้ยังอาจมีการส่ง URL แบบเต็มของเว็บไซต์หรือไฟล์ที่อาจเป็นอันตรายมายัง Google เพื่อให้ช่วยตรวจสอบว่าเว็บไซต์หรือไฟล์มีอันตรายหรือไม่
-
Chrome ใช้เทคโนโลยี Google Safe Browsing ในการสแกนคอมพิวเตอร์เป็นระยะๆ เพื่อตรวจหาซอฟต์แวร์ไม่พึงประสงค์ที่ทำให้คุณเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าไม่ได้ หรือรบกวนการรักษาความปลอดภัยและการทำงานอย่างมีเสถียรภาพของเบราว์เซอร์ ดูข้อมูลเพิ่มเติม หากตรวจพบซอฟต์แวร์ประเภทนี้ Chrome อาจเสนอตัวเลือกในการดาวน์โหลดเครื่องมือทำความสะอาด Chrome เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้ออก
-
คุณเลือกที่จะส่งข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อช่วยปรับปรุง Google Safe Browsing ได้เมื่อเข้าถึงเว็บไซต์ที่ดูเหมือนว่าจะมีมัลแวร์หรือเมื่อ Chrome ตรวจพบซอฟต์แวร์ไม่พึงประสงค์ในคอมพิวเตอร์ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
-
หากคุณใช้ตัวจัดการรหัสผ่านของ Chrome บริการ Safe Browsing จะตรวจสอบกับ Google เมื่อคุณป้อนรหัสผ่านที่บันทึกในหน้าที่เข้าชมไม่บ่อยเพื่อปกป้องคุณจากการโจมตีด้วยวิธีฟิชชิง Safe Browsing ยังปกป้องรหัสผ่านบัญชี Google ของคุณด้วย หากคุณป้อนรหัสผ่านในเว็บไซต์ที่อาจมีการฟิชชิง Chrome จะเตือนให้คุณเปลี่ยนรหัสผ่านบัญชี Google หากคุณซิงค์ประวัติการท่องเว็บ Chrome จะแจ้งด้วยว่าบัญชี Google ของคุณอาจถูกโจมตีด้วยวิธีฟิชชิง
-
หากคุณเป็นผู้ใช้ Safe Browsing และกำลังซิงค์ประวัติการท่องเว็บของ Chrome กับบัญชี Google อยู่ Chrome อาจรายงานโดเมนที่คุณให้สิทธิ์ ปฏิเสธ หรือเพิกถอนสิทธิ์ ตลอดจนเพิกเฉยหรือปิดหน้าต่างการขอสิทธิ์แบบไม่ระบุตัวตน เพื่อปรับปรุงความปลอดภัยและความเป็นประโยชน์ของสิทธิ์ในการเข้าถึงคุณลักษณะบนเว็บ
-
คุณเลือกปิดใช้ฟีเจอร์ Google Safe Browsing ภายใน Chrome ได้ทุกเมื่อ
หลักปฏิบัติเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของแอป ส่วนขยาย ธีม บริการ และส่วนเสริมอื่นๆ
คุณใช้แอป ส่วนขยาย ธีม บริการ และส่วนเสริมอื่นๆ กับ Chrome รวมถึงรายการที่อาจได้รับการติดตั้งไว้ล่วงหน้าหรือรวมอยู่ใน Chrome ได้ ส่วนเสริมที่ได้รับการพัฒนาและให้บริการโดย Google จะสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ของ Google ได้ และอยู่ภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวของ Google เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น ส่วนเสริมที่พัฒนาและให้บริการโดยผู้อื่นเป็นความรับผิดชอบของผู้สร้างส่วนเสริมนั้น ซึ่งอาจมีนโยบายความเป็นส่วนตัวที่แตกต่างกัน
การจัดการส่วนเสริม
ก่อนติดตั้งส่วนเสริม คุณควรตรวจสอบสิทธิ์ที่ขอ เนื่องจากส่วนเสริมอาจมีสิทธิ์ในการทำสิ่งต่างๆ เช่น
- จัดเก็บ เข้าถึง และแชร์ข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในเครื่องหรือในบัญชี Google ไดรฟ์ของคุณ
- ดูและเข้าถึงเนื้อหาในเว็บไซต์ที่คุณเข้าชม
- ใช้การแจ้งเตือนที่ส่งผ่านเซิร์ฟเวอร์ของ Google
Chrome โต้ตอบกับส่วนเสริมได้หลายรูปแบบ
- ตรวจหาอัปเดต
- ดาวน์โหลดและติดตั้งอัปเดต
- ส่งสัญญาณบอกสถานะการใช้งานส่วนเสริมไปยัง Google
ส่วนเสริมบางรายการอาจต้องการสิทธิ์ในการเข้าถึงตัวระบุที่ไม่ซ้ำสำหรับการจัดการสิทธิ์ดิจิทัลหรือสำหรับการส่งข้อความพุช คุณปิดใช้ตัวระบุได้โดยการนำส่วนเสริมออกจาก Chrome
ในบางครั้ง Google อาจพบส่วนเสริมที่มีภัยคุกคามด้านความปลอดภัย ละเมิดข้อกำหนดสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ของ Chrome เว็บสโตร์ หรือข้อตกลงทางกฎหมาย กฎหมาย ข้อบังคับ ตลอดจนนโยบายอื่นๆ Chrome จะดาวน์โหลดรายการส่วนเสริมที่เป็นอันตรายเหล่านี้เป็นระยะๆ เพื่อปิดใช้หรือนำออกจากระบบของคุณจากระยะไกล
ข้อมูลเพิ่มเติม
ข้อมูลที่ Google ได้รับเมื่อคุณใช้ Chrome จะนำไปใช้และปกป้องภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวของ Google ข้อมูลที่ผู้ให้บริการเว็บไซต์อื่นและนักพัฒนาส่วนเสริมได้รับ ซึ่งรวมถึงคุกกี้จะเป็นไปตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์เหล่านั้น
Google ปฏิบัติตามกรอบโครงสร้างการกำกับตนเองหลายรายการด้วยกัน ซึ่งรวมถึงกรอบโครงสร้างการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวในสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา ดูข้อมูลเพิ่มเติม
คำจำกัดความ
คุกกี้คือไฟล์ขนาดเล็กที่มีสตริงอักขระที่ส่งไปยังคอมพิวเตอร์ของคุณเมื่อคุณเยี่ยมชมเว็บไซต์ เมื่อคุณเยี่ยมชมเว็บไซต์เดิมอีกครั้ง คุกกี้จะยอมให้เว็บไซต์นั้นจดจำเบราว์เซอร์ของคุณไว้ คุกกี้อาจจัดเก็บค่ากำหนดของผู้ใช้และข้อมูลอื่นๆ ไว้ คุณสามารถตั้งค่าเบราว์เซอร์ของคุณใหม่เพื่อปฏิเสธคุกกี้ทั้งหมด หรือให้ระบุเวลาส่งคุกกี้ได้ อย่างไรก็ตาม บางคุณลักษณะของเว็บไซต์หรือบางบริการอาจทำงานผิดปกติหากไม่มีคุกกี้ จะมีการนำเทคโนโลยีอย่างอื่นมาใช้ให้ทำงานคล้ายกับคุกกี้บนแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่คุกกี้ไม่พร้อมใช้งานหรือใช้งานไม่ได้ เช่น รหัสโฆษณาบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ Android เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Google ใช้คุกกี้และวิธีที่ Google ใช้ข้อมูลต่างๆ ซึ่งรวมถึงคุกกี้ เมื่อคุณใช้เว็บไซต์หรือแอปของพาร์ทเนอร์ของเรา
บัญชี Google
คุณสามารถเข้าถึงบริการบางอย่างของเราได้โดยลงชื่อสมัครใช้บัญชี Google และให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับเรา (โดยทั่วไปคือชื่อ ที่อยู่อีเมล และรหัสผ่าน) ข้อมูลของบัญชีนี้จะถูกนำไปใช้เพื่อรับรองความถูกต้องให้กับคุณเมื่อคุณเข้าถึงบริการต่างๆ ของ Google และป้องกันไม่ให้ผู้อื่นเข้าถึงบัญชีของคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต คุณสามารถแก้ไขหรือยกเลิกบัญชีของคุณเมื่อใดก็ได้ผ่านการตั้งค่าบัญชี Google
บันทึกของเซิร์ฟเวอร์
เช่นเดียวกับเว็บไซต์ส่วนใหญ่ เซิร์ฟเวอร์ของเราจะบันทึกคำขอหน้าเว็บของผู้ใช้ในขณะเยี่ยมชมเว็บไซต์โดยอัตโนมัติ โดยทั่วไปแล้ว "บันทึกของเซิร์ฟเวอร์" จะมีข้อมูลคำขอเว็บไซต์, ที่อยู่ Internet Protocol, ประเภทเบราว์เซอร์, ภาษาของเบราว์เซอร์, วันที่และเวลาของคำขอ รวมถึงคุกกี้อย่างน้อย 1 รายการที่อาจระบุเบราว์เซอร์ที่คุณใช้ได้
นี่คือตัวอย่างรายการบันทึกทั่วไปสำหรับข้อความค้นหาคำว่า "cars" โดยมีส่วนประกอบอื่นๆ ตามมาด้วยดังนี้
123.45.67.89 - 25/Mar/2003 10:15:32 -
https://www.google.com/search?q=cars -
Firefox 1.0.7; Windows NT 5.1 - 740674ce2123e969
-
123.45.67.89
คือที่อยู่ IP ที่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตกำหนดให้กับผู้ใช้ ขึ้นอยู่กับบริการของผู้ใช้ ผู้ให้บริการอาจมีการกำหนดที่อยู่ที่แตกต่างกันให้กับผู้ใช้ทุกครั้งที่ทำการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต -
25/Mar/2003 10:15:32
คือวันที่และเวลาที่ส่งข้อความค้นหา -
https://www.google.com/search?q=cars
คือ URL ที่ขอพร้อมด้วยข้อความค้นหา -
Firefox 1.0.7; Windows NT 5.1
คือเบราว์เซอร์และระบบปฏิบัติการที่ใช้ และ -
740674ce2123a969
คือรหัสคุกกี้ที่กำหนดให้กับคอมพิวเตอร์เครื่องนี้เมื่อเข้าใช้บริการของ Google เป็นครั้งแรก (ผู้ใช้สามารถลบคุกกี้ออกได้ หากผู้ใช้ลบคุกกี้ออกจากคอมพิวเตอร์ตั้งแต่เข้าใช้งาน Google ครั้งล่าสุด จะมีการกำหนดรหัสคุกกี้ที่ไม่ซ้ำกันให้กับผู้ใช้ในครั้งต่อไปที่เข้าใช้งาน Google จากคอมพิวเตอร์เครื่องดังกล่าว)